(662) 964 4912-4

|

(662) 964 4915

|

menu_mobile Background Removed

(662) 964 4912-4

(662) 964 4915

menu_mobile Background Removed
menu_mobile Background Removed

(662) 964 491-4

(662) 964 4915

menu_mobile Background Removed
งานเกษตรกำแพงแสน ประจำปี 2552
03/12/2009
งานประชุมใหญ่สามัญ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประจำปี 2553
23/02/2010
งานเกษตรกำแพงแสน ประจำปี 2552
03/12/2009
งานประชุมใหญ่สามัญ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ประจำปี 2553
23/02/2010
 

ซีสเทียมีน ไฮโดรคลอไรด์ & การเจริญเติบโตของสัตว์ (CYSTEAMINE HCL & GROWTH PERFORMANCE)

ผลของซีสเทียมีน ไฮโดรคลอไรด์ต่อประสิทธิภาพการเจริญเติบโตสัตว์
   จุดมุ่งหวังสูงสุดของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในเชิงธุรกิจ ก็คือการจัดการสัตว์ เพื่อให้สัตว์สามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิต ได้แก่ เนื้อ นม ไข่ และขน เป็นต้น ได้สูงสุดตามศักยภาพของสายพันธุ์หรือลักษณะทางพันธุกรรม (genetic) ของสัตว์แต่ละชนิด และผลสรุปของจุดมุ่งหวังนี้ก็คือ เพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุดนั้นเอง ดังนั้นจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สารกระตุ้นประสิทธิภาพการผลิต (production performance stimulants) กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันอย่างไรก็ตาม การเจริญเติบโตของสัตว์นั้นก็ถูกควบคุมด้วยหลายปัจจัย โดยปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญคือการควบคุมจากโกรทฮอร์โมน (growth hormone; GH) ซึ่งเป็นฮอร์โมนจาก Somatotroph cells ของต่อมใต้สมองส่วนหน้า เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องต่อกระบวนการเมแทบอลิซึมของโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต และมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างและพัฒนาการของกระดูกและกล้ามเนื้อ การหลั่ง GH จะถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนโซมาโตสแตติน (Somatostatin-14; SS) ซึ่งหากฮอร์โมน SS มีปริมาณมากขึ้น การหลั่ง GH ก็จะลดลง

cysteamine-HCL001

Fig.1 Mechanism of Growth Hormone on improve growth performance of the animals GHRH: Growth hormone releasing hormone Source: University of Colorado (2008)

ปัจจุบันจึงมีการศึกษาการใช้สารกระตุ้นประสิทธิภาพการผลิตของสัตว์ ชนิดหนึ่งคือ “ซีสเทียมีน ไฮโดรคลอไรด์ (cysteamine HCL)” ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่เป็นอนุพันธ์ร่วมของกรดอะมิโนซีสเตอีน (cysteine) จัดเป็นสารเคมีในกลุ่ม sulphydryl compound มีผลต่อระบบต่อมไร้ท่อที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเมแทบอลิซึม (metabolism) ของร่างกายสัตว์ โดยใช้หลักการชีวเคมีทางกายภาพ (physio-biochemical regulation; PBR) จึงช่วยปรับปรุงสมรรถภาพการผลิตของสัตว์ (growth performance of animals) โดยมีหลักการในการทำงานดังนี้ เมื่อซีสเทียมีนถูกดูดซึมเข้าสู่ลำไส้เล็ก จะเข้าสู่ระบบต่อมไร้ท่อ จากนั้นจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของฮอร์โมน โซมาโตสแตติน (somatostatin; SS) หรือ growth hormone inhibitory hormone ที่ผลิตจากสมองส่วนหน้า (pituitary) ตับอ่อน (pancreas) และลำไส้ (intestinal tract) ซึ่งฮอร์โมน SS นี้จะทำหน้าที่ยับยั้งการผลิตโกรท ฮอร์โมน

cysteamine-HCL002

Fig.2 The main active mechanism of Cysteamine exhausts Somatostatin (SS)

การทำงานของซีสเทียมีนในการยับยั้งการทำงานของฮอร์โมน SS โดย thiol group (-SH group) ของ ซีสเทียมีน จะเร่งให้เกิดการสลายพันธะ disulphide ตรงตำแหน่งของกรดอะมิโนซีสเตมีน (cysteine) ในโมเลกุลของฮอร์โมน SS นี้ให้แยกออกจากกัน และหมู่ thiol ของซีสเทียมีนจะเข้าจับกับฮอร์โมน SS แทนในตำแหน่งดังกล่าว ทำให้โครงสร้างโมเลกุลของฮอร์โมนนี้เกิดการเสียสภาพ และลดบทบาทการทำงานลงไป นอกจากนี้ซีสเทียมีนยังมีผลในการยับยั้ง dopamine-?-hydroxylase ทำให้เกิดการสะสมของ dopamine ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างและหลั่งโกรท ฮอร์โมน อีกด้วย

cysteamine-HCL003

Fig.3 Cysteamine interactions with disulphide bonds that it often bridge pairs of cysteine amino acid in structure of Somatostatin

ส่งผลให้ร่างกายสัตว์ที่ได้รับซีสเทียมีน มีการสร้างและหลั่งโกรท ฮอร์โมน ในกระแสเลือดเพิ่มมากขึ้น จึงช่วยปรับปรุงสมรรถภาพการผลิตของสัตว์ โดยส่งผลต่อกระบวนการเมแทบอลิซึมของร่างกายสัตว์ดังนี้

 ผลต่อไขมัน: GH ช่วยเพิ่มกระบวนการสลายกรดไขมันให้ได้พลังงาน (oxidation of fatty acid) โดยกระตุ้นการสลายตัวของกรดไขมันอิสระ (free fatty acid), ไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride), ช่วยเร่งปฏิกิริยาภายในเซลล์ไขมันชนิดอะดิโปซัยท์ (adipocyte) และลดการสะสมกรดไขมันในกระแสเลือด โดยสามารถเพิ่มการนำกรดไขมันดังกล่าวมาใช้เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับกล้ามเนื้อ
 ผลต่อคาร์โบไฮเดรต: GH ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) ที่เนื้อเยื่อเป้าหมาย ช่วยกระตุ้นการสร้างกลูโคสจากตับ ในขณะที่ตับและกล้ามเนื้อเกิดกระบวนการไกลโคจีโนไลซีส (glycogenolysis) ปลดปล่อยกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือดเพิ่มขึ้น และนำกลูโคสเข้าสู่วัฏจักรเครป (Kreb’s cycle) เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในกระบวนการเมแทบอลิซึมของร่างกายสัตว์

นอกจากนี้ GH กระตุ้นให้เกิดการสร้างสารกระตุ้นเจริญเติบโตที่คล้ายอินซูลิน (insulin-like growth factor-I; IGF-I) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นจากตับ และเนื้อเยื่ออื่นๆ บทบาทของ IGF-I ได้แก่

 กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์กระดูกอ่อนทำให้เกิดการเจริญเติบโตของกระดูก
 กระตุ้นให้มีการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ โดยกระตุ้นเซลล์มัยโอบลาสท์ (myoblast) ให้แบ่งตัวเพื่อทำหน้าที่เฉพาะเจาะจง เพิ่มจำนวนเซลล์ และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

นอกจากนี้ ซีสเทียมีนยังมีผลในการต่อต้านความเครียด โดยลดปริมาณและบทบาทของฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) อีกทั้งช่วยปรับปรุงระบบการดูดซึมอาหารในลำไส้เล็กให้ทำงานได้ดีขึ้น โดยการช่วยฟื้นฟูวิลลัส (villus) และเซลล์ก็อบเบลท (goblet cell) ให้สมบูรณ์ขึ้น ดังนั้นการที่สัตว์ได้รับซีสเทียมีน จึงช่วยปรับปรุงสมรรถภาพการผลิตของสัตว์ ได้แก่ ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสัตว์เจริญเติบโตเร็วขึ้น ทำให้เพิ่มอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Gain; ADG), ปรับปรุงอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ (Feed Conversion Ratio; FCR) และปรับปรุงคุณภาพซาก (Carcass Quality) เป็นต้น

ซีสเทียมีน (Cysteamine)  

Synonyms:

 

 

 

 

 

Chemical formula:

Molecular weight

Structure:

Chemical formula:

Molecular weight:

Structure:

Melting point:

Soluble:

2-aminoethanethiol, mercaptamine,

ß-mercaptoethylamine,

2-aminoethyl mercaptan,

thioethanolamine,decarboxycysteine,

MEA, mercamine, L-1573, Becaptan,

Lambratene

C2H7NS

77.15 (C 31.14 %, H 9.15 %, N 18.16 %, S 41.56 %)

HS-CH2-CH2-NH2

C2H7NS.HCl.

113.61

HS-CH2-CH2-NH2.HCl

70.2-70.7 OC

Water, Alcohol

   

cysteamine-HCL004

Fig.4 Structure of Cysteamine

cysteamine-HCL005

Fig.5 Structure of Cystamine HCL

cysteamine-HCL006

Fig.6 Structure of Cysteine