(662) 964 4912-4

|

(662) 964 4915

|

menu_mobile Background Removed

(662) 964 4912-4

(662) 964 4915

menu_mobile Background Removed
menu_mobile Background Removed

(662) 964 491-4

(662) 964 4915

menu_mobile Background Removed
โรคไข้หวัดสุกร (H1N1)
28/01/2009
พรีไบโอติก (PREBIOTICS)
20/04/2009
โรคไข้หวัดสุกร (H1N1)
28/01/2009
พรีไบโอติก (PREBIOTICS)
20/04/2009
 

หนู (RATS AND MICE)

   หนู เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายสกุลในวงศ์ Muridae มีฟันแทะ คือ มีฟันคู่หน้าทั้งบนและล่าง 2 คู่ ที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษและคมมีลักษณะโค้งยื่น เพื่อใช้สำหรับกัดหรือแทะสิ่งต่างๆ เพื่อให้ฟันหน้าซึ่งสามารถเจริญยาวได้ตลอดชีวิตของมัน หนูเป็นศัตรูที่สำคัญของมนุษย์ นำความเสียหายแก่เศรษฐกิจเป็นจำนวนมหาศาลทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงที่เด่นชัด คือ การกัดกินพืชผลทางการเกษตร เครื่องอุปโภคและบริโภค นอกจากนี้หนูยังเป็นสัตว์พาหะสำคัญที่นำโรคหลายชนิดมาสู่คนและสัตว์เลี้ยง เช่น โรคฉี่หนู, กาฬโรค, เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบ และโรคภูมิแพ้ เป็นต้น ส่วนความเสียหารทางอ้อมมักเกิดจากการกัดแทะของหนูตามสิ่งก่อสร้าง อาคารบ้านเรือน สายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในอาคารทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน หนูที่มีความสำคัญทางด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะหนูที่อาศัยทำรังและหากินอยู่ในบ้านหรือบริเวณรอบ ๆ บ้าน ซึ่งสามารถพบเห็นได้ มี 4 ชนิด ได้แก่

RattusNorvegicus

หนูนอร์เวย์ (Rattus Norvegicus)

บางที่เรียก หนูขยะ หนูท่อ หนูสีน้ำตาล หนูชนิดนี้เป็นหนูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน ตระกูล มีน้ำหนักตัว 300-350 กรัม บางตัวอาจมีน้ำหนักถึง 400 กรัม ขนาดลำตัวและหัวยาวประมาณ 180-250 มิลลิเมตร หางยาวประมาณ 150-220 มิลลิเมตร ตีนหลังยาวประมาณ 35 – 40 มิลลิเมตร หูยาวประมาณ 17-23 มิลลิเมตร

 ลักษณะรูปร่าง
ลักษณะขนหยาบมีสีน้ำตาลปนเทา ห้องสีเทา ส่วนจมูกทู่ ใบหูเล็ก ตาเล็ก หางสั้นมี 2 สี ด้านบนสีดำ ด้านล่างสีจาง มีเกล็ดหยาบๆ ที่หาง และด้านบนของตีนหลังมีสีขาว มีเต้านมรวม 6 คู่ อยู่ที่อก 3 คู่ ท้อง 3 คู่

 ถิ่นที่อยู่อาศัย
มักอยู่ตามรู ตามท่อระบายน้ำโสโครก ท่อน้ำ ใต้ถุนตึกหรือบ้านเรือน บริเวณลำคลอง กองขยะมูลฝอย ไม่ชอบขึ้นที่สูง กินอาหารบูดเน่า พวกแป้ง ผัก เนื้อ และปลา การแพร่พันธุ์ ออกลูกปีละ 4 – 7 ครอก ลูกหนึ่งครอกมีจำนวน 8 –12 ตัว ระยะทางการหากิน 250 – 300 ฟุต ลักษณะมูล หนู มีขนาดใหญ่คล้ายแคปซูลยาวประมาณ 12 - 15 มิลลิเมตร

RattusRattus

หนูท้องขาว (Rattus Rattus)

บางครั้งเรียก หนูหลังคา (roof rat) เป็นหนูตระกูล Rattus ที่มีขนาดใหญ่ปานกลางรูปร่างเพรียว มีน้ำหนักตัว 90-250 กรัม บางตัวอาจมีน้ำหนัก 360 กรัม ขนาดลำตัวและหัวยาวประมาณ 182 มิลลิเมตร หางยาวประมาณ 188 มิลลิเมตร ตีนหลังยาวประมาณ 33 มิลลิเมตร ความยาวใบหูประมาณ 23 มิลลิเมตร มีเต้านมรวม 5-6 คู่ อยู่ที่อก 2 คู่ที่ท้อง 3 คู่

 ลักษณะรูปร่าง
ขนด้านหลังมีสีน้ำตาล (ฐานขนสีเทาปลายสีน้ำตาล) ไม่มีขนคล้ายหนาม (spine) ขนส่วนท้องมีสีขาวปนเทาหรือเหลืองครีม จมูกแหลม ตาโปน มีขนาดหูใหญ่ หางมีสีดำและมีเกล็ดละเอียดตลอดหาง ความยาวของหางมากกว่าความยาวของลำตัว

 ถิ่นที่อยู่อาศัย
ชอบอาศัยอยู่ตามอาคารบ้านเรือน หลังคาบ้าน บริเวณกันสาดใต้หลังคา ถ้าบริเวณรอบบ้านมีต้นไม้ แผ่กิ่งก้านสาขาอยู่ใกล้เคียงอาจพบหนูท้องขาวและรังอยู่บนต้นไม้นั้นด้วย มีความสามารถในการปีนป่ายเก่งกินอาหารทุกชนิด อาหารที่ชอบมากคือ เมล็ดพืช เช่น ข้าวเปลือก ถั่วข้าวโพด การแพร่พันธุ์ ออกลูกปีละ 4 - 6 ครอก ลูกหนึ่งครอกมีจำนวน 6 - 8 ตัว ระยะทางหากิน 100 - 150 ฟุต ลักษณะมูล เป็นรูปกระสวย ปลายแหลม ขนาดความยาวประมาณ 10 - 12 มิลลิเมตร

RattusExulans

หนูจี๊ด (Rattus Exulans)

เป็นตระกูลของ Rattus ที่มีขนาดเล็ก แต่ตัวโตกว่าหนูหริ่ง น้ำหนักตัวประมาณ 36 กรัม ขนาดลำตัวและหัวยาวประมาณ 115 มิลลิเมตร หางยาวประมาณ 128 มิลลิเมตร ตีนหลังยาวประมาณ 23 มิลลิเมตร ความยาวหูประมาณ 16 มิลลิเมตร มีเต้านมรวม 4 คู่ อยู่ที่หน้าอก 2 คู่ ที่ท้อง 2 คู่

 ลักษณะรูปร่าง
รูปร่างเพรียว จมูกแหลม ตาโต หูใหญ่ ขนด้านหลังสีน้ำตาลมีลักษณะอ่อนนุ่ม มีขนแข็ง (spine) ขึ้นแซมบ้างเล็กน้อย ขนด้านท้องสีเทา ผิวหางเรียบไม่มีเกล็ดมีสีดำตลอด

 ถิ่นที่อยู่อาศัย
ตามบ้านเรือน ชอบที่สูงตามซอกมุมที่ลับตาอาคาร บนเพดาน และมีความสามารถในการปีนป่ายเก่งเหมือนหนูท้องขาว การแพร่พันธุ์ ตัวเมียออกลูกครั้งละ 8 – 12 ตัว ระยะทางหากิน 20 – 50 ฟุต เวลาออกหากินกลางคืนจะส่งเสียงร้องจี๊ด ๆ ให้ได้ยิน

MusMusculus

หนูหริ่ง (Mus Musculus)

หนูหริ่งบ้าน หรือ หนูไมซ์ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ในอันดับสัตว์ฟันแทะ (Rodentia) ในวงศ์หนู (Muridae)

 ลักษณะรูปร่าง
จมูกแหลม ขนด้านหลังสีเทาบางทีมีสีน้ำตาลปน มีลักษณะอ่อนนุ่ม ขนด้านท้องสีขาว ส่วนหางมี 2 สีด้านบนสีดำ ส่วนด้านล่างสีจางกว่า ถิ่นที่อยู่อาศัย ตามบ้านเรือน มักชอบหลบซ่อนตัวอยู่ตามตู้ โต๊ะ ที่เก็บของ ตามช่อง ฝาผนัง ตามครัว กินอาหารได้ทุกชนิด แต่ชอบพวกเมล็ดพืช

 การแพร่พันธุ์
ออกลูกปีละประมาณ 8 ครอก ลูกหนึ่งครอกมีจำนวน 5 - 6 ตัว ระยะทางการหากิน 10 – 30 ฟุต ลักษณะมูลหนู ขนาดเล็กกลมยาวปลายแหลมมีขนปน

ชีววิทยาและพฤติกรรมของหนู

การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโตหนู เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความสามารถในการผสมพันธุ์ และแพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมาก จากการศึกษาสำรวจพบว่า พวกหนูนอร์เวย์ และหนูท้องขาวสามารถมีลูกได้ครั้งแรกอายุประมาณ 3 – 5 เดือน เมื่อผสมแล้วจะตั้งท้องเพียง 21 – 22 วัน สำหรับหนูมีลูกติด ๆ กันไม่หยุดในท้องหลัง ๆ อาจตั้งท้องนาน 23 – 29 วัน ส่วนในหนูหริ่งนั้น หลังผสมพันธุ์อาจตั้งท้องประมาณ 19 วัน ภายใน 48 ชั่วโมง หลังคลอด ความยืนยาวของชีวิตหนูแต่ละชนิดไม่เท่ากัน แต่ไม่แตกต่างกันมากนัก เช่น หนูท้องขาวอาจจะมีชีวิตอยู่ได้นานประมาณ 2 ปี

พฤติกรรมของหนู

การเป็นอยู่ทั่ว ๆ ไป หนูมีความสามารถในการเรียนรู้ คุ้นเคยและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพสิ่งแวดล้อมได้ดี การเป็นอยู่ในรังจะมีหัวหน้า ทำหน้าที่ออกสำรวจหาอาหาร หนูตัวเมียถ้ามีลูกโตพอสมควรมันจะพาลูก ๆ ออกไปหากินพร้อม ๆ กัน และสอนให้ลูก ๆ รู้จักหาอาหารโดยปลอดภัย ลูกหนูเมื่ออายุประมาณ 3 เดือน แล้วมักแยกตัวมาอยู่อิสระในช่วงนี้หนูจะมีความรวดเร็วว่องไวในการเคลื่อนไหวและหากินมาก